วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

รูปเรขาคณิต


รูปเรขาคณิต
รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี
รูปปิด รูปเปิด
-         รูปปิด  หมายถึง  รูปที่มีเส้นลากจากจุดเริ่มต้นแล้วกลับมาที่จุดเดิม
-         รูปเปิด  หมายถึง  รูปที่มีขอบเส้นลากจากจุดเริ่มต้นแล้วไม่วกกลับมาพบกับจุดเดิม
-         รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี เป็นรูปปิด
ลักษณะของรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี เช่น
จากนั้น มาดูลักษณะของรูปปิด รูปเปิด

 
ลักษณะของรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี
      รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี เป็นรูปปิด โดยเป็นรูปที่มีเส้นลากจากจุดเริ่มต้นแล้วกลับมาที่จุดเดิม
มาดูตัวอย่าง ลักษณะของรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรีที่เป็นสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ ที่มีบางส่วนเป็นรูปเรขาคณิต เช่น นาฬิกา กล่อง กระจก หลังคาบ้าน เป็นต้น
 
     ลักษณะของรูปสามเหลี่ยมและ รูปสี่เหลี่ยม   

-         รูปสามเหลี่ยม มีด้าน 3 ด้าน และมีมุม 3 มุม 
-         รูปสี่เหลี่ยม มีด้าน 4 ด้าน และมีมุม 4 มุม
จากนั้นเรามาดูลักษณะของรูปสามเหลี่ยมและ รูปสี่เหลี่ยมกัน เช่น
จากนั้น มาดูตัวอย่างสิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมและรูปสี่เหลี่ยม เช่น
การเขียนรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี
โดยใช้แบบของรูป
     การเขียนรูปเรขาคณิต ได้แก่ รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี อาจเขียนได้โดยการลากเส้นไปตามขอบของสิ่งที่นำมาเป็นแบบรูป
ดังนั้น เรามาดู ตัวอย่าง การเขียนรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี โดยใช้แบบของรูป เช่น

การเขียนรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี
โดยใช้แบบของรูปเรขาคณิต
 
     การเขียนรูปเรขาคณิต ได้แก่ รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี อาจเขียนได้โดยการลากเส้นไปตามขอบของสิ่งที่นำมาเป็นแบบรูป
 
การเขียนรูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี โดยใช้แบบของรูปเรขาคณิต อีกแบบหนึ่งเช่น

จากนั้น เรามาดู ตัวอย่าง การดูรูปเรขาคณิต (รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม และรูปวงรี) ที่กำหนดให้ มีแบบรูปเรขาคณิตใดบ้าง และมีกี่รูป

รูปทรงเรขาคณิต
ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม และทรงกระบอก
รูปเรขาคณิตสามมิติจะมีความหนา ซึ่งได้แก่
-         ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก คือ ลักษณะของรูปสี่เหลี่ยมที่เป็นสามมิติ
-         ทรงกลม คือ ลักษณะของรูปวงกลมที่เป็นสามมิติ
-         ทรงกระบอก คือ ลักษณะของรูปกระบอกที่เป็นสามมิติ
เมื่อเราทราบความหมายของรูปทรงเรขาคณิตแบบต่างๆ แล้ว มาดูลักษณะของรูปทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม และทรงกระบอกเช่น
รูปและรูปทรงเรขาคณิต
รูปสี่เหลี่ยมมุมฉากกับทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
ความแตกต่างระหว่างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก กับทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก คือ
-         รูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก เป็นรูปเรขาคณิตสองมิติไม่มีความหนา โดยจะมีส่วนกว้างและส่วนยาว
-         ทรงสี่เหลี่ยมมุม เป็นรูปเรขาคณิตสามมิติที่มีความหนา โดยจะมีส่วนสูง ส่วนกว้าง และส่วนยาว
จากนั้น มาดูความแตกต่างระหว่างรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก และทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก เช่น กระดาษเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก และกล่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก
รูปวงกลมกับทรงกลม
ความแตกต่างระหว่างรูปวงกลมกับทรงกลม คือ
-         รูปวงกลม เป็นรูปเรขาคณิตสองมิติไม่มีความหนา
-         ทรงกลม เป็นรูปเรขาคณิตสามมิติที่มีความหนา
มาดูความแตกต่างระหว่างรูปวงกลมกับทรงกลม เช่น กระดาษเป็นรูปวงกลม และลูกบอลเป็นทรงกลม
แบบรูปและความสัมพันธ์
     แบบรูปของรูปเรขาคณิต เป็นชุดของรูปเรขาคณิตที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น มีรูปร่างสัมพันธ์กัน มีสีสัมพันธ์กัน
เรามาทบทวนแบบรูปและความสัมพันธ์ของจำนวนกัน
ลองมาดูแผนภูมิแบบรูปและความสัมพันธ์ของจำนวน เช่น แบบรูปจำนวนที่ลดลงทีละ 2
จากนั้น เรามาดู ตัวอย่าง แบบรูปของสิ่งของ หรือรูปภาพที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น
จากตัวอย่าง พิจารณาความสัมพันธ์ได้ดังนี้
ข้อ A พิจารณาความสัมพันธ์ของแบบรูปว่า
รูปที่ 1 เป็นรูปอะไร (ผึ้ง)
รูปที่ 2 เป็นรูปอะไร (หมี)
รูปที่ 3 เป็นรูปอะไร (กบ)
รูปที่ 4 เป็นรูปอะไร (สุนัข)
แล้วรูปที่ 5, 6, 7, 8, 9 และ 10 ซ้ำกับรูปที่  1, 2, 3, 4 หรือไม่
สังเกตว่า รูปต่อไปจะซ้ำกันอีกหรือไม่ จะสรุปได้ว่า รูปที่  1, 2, 3, 4 เป็นชุดของรูปที่มีรูปร่างสัมพันธ์กัน โดยเมื่อครบชุดแล้วต่อไป จะซ้ำชุดเดิมไปเรื่อยๆ แล้วสรุปเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของแบบรูปว่า
แบบรูปของเรขาคณิต เป็นชุดของรูปเรขาคณิตที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใดอย่างหนึ่ง และบอกว่ารูปที่ขาดหายไป (รูปที่ 11) คือรูปอะไร (รูปกบ)
ข้อ B พิจารณาความสัมพันธ์ของแบบรูปว่า
รูปที่ 1 เป็นรูปอะไร (สี่เหลี่ยม)
รูปที่ 2 เป็นรูปอะไร (วงรี)
รูปที่ 3 เป็นรูปอะไร (หกเหลี่ยม)
รูปที่ 4 เป็นรูปอะไร (สามเหลี่ยม)
แล้วรูปที่ 5, 6, 7 และ8 ซ้ำกับรูปที่  1, 2, 3, 4 หรือไม่
สังเกตว่า รูปต่อไปจะซ้ำกันอีกหรือไม่ จะสรุปได้ว่า รูปที่  1, 2, 3, 4 เป็นชุดของรูปที่มีรูปร่างสัมพันธ์กัน โดยเมื่อครบชุดแล้วต่อไป จะซ้ำชุดเดิมไปเรื่อยๆ และบอกว่ารูปที่ขาดหายไป (รูปที่ 11) คือรูปอะไร (รูปหกเหลี่ยม)

เรามาดู รูปเรขาคณิต 2 มิติ กันนะคะ :
อ้างอิง :
( 18 กันยายน 2556 )



 
 
 
 
 
 
 

มุมและส่วนของเส้นตรง


มุมและส่วนของเส้นตรง
การเรียกชื่อมุม จะเรียกตามตัวอักษรที่กำหนด 3 ตัว โดยให้อักษรที่แสดงจุดยอดมุมอยู่ตรงกลาง
ตัวอย่าง
มุมเกิดจากรังสีสองเส้นที่มีจุดปลายเป็นจุดเดียวกัน
ให้พิจารณาว่า มุม กขค เท่ากับ มุม ABC หรือไม่
วิธีหาคำตอบ
ใช้กระดาษลอกลายเพื่อลอกมุม กขค เสร็จแล้วยกรูปที่ลอกนั้นมาวางบนมุม ABC ให้จุด ทับ B แขน ขค ทาบไปตามแขน BC เมื่อ สังเกตจะเห็นว่า แขน ขก ทาบไปตามแขน AB พอดี
ดังนั้น มุม กขค จึงมีขนาดเท่ากับ มุม ABC พอดี


        การสร้างมุมให้มีขนาดเท่ากับมุมที่กำหนดให้  อาจใช้ไม้โพรแทรกเตอร์ โดยไม้โพรแทรกเตอร์มี 2 ลักษณะ ได้แก่ ไม้โพรแทรเตอร์ชนิดครึ่งวงกลม และไม้โพรแทรเตอร์ชนิดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ดังนี้


วิธีการวัดมุมโดยใช้ไม้โพรแทรกเตอร์
     วางไม้โพรแทรกเตอร์โดยให้จุดกึ่งกลางทับจุดยอดมุมที่จะวัด และให้เส้นที่ชี้เลขศูนย์ (0) บนไม้โพรแทรกเตอร์ทาบไปตามแขนของมุมข้างหนึ่ง แล้วอ่านขนาดของมุม โดยดูว่า แขนของมุมอีกข้างหนึ่งชี้ที่เลขใดของตัวเลขชุดเดียวกับ 0 ที่วางทับแขนของมุมข้างแรกไว้ ดังรูป






     การแบ่งครึ่งมุม หมายถึง การแบ่งมุมออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กันอาจทำได้หลายวิธี แต่ที่นิยม คือ การใช้ไม้โพรแทรกเตอร์ และวงเวียน
วิธีที่ 1 การแบ่งครึ่งมุมโดยใช้ไม้โพรแทรกเตอร์
1. วัดขนาดของมุม ABC ได้ 40 องศา
2. ของของมุม =  40  องศา
    แบ่งครึ่งมุม
40 องศา / 2  =  20 องศา
 
3. ใช้ไม้โพรแทรกเตอร์วัดแบ่งครึ่งมุมที่ 20 องศา แล้วใช้ดินสอทำเครื่องหมายไว้
 
4. ลากแขน BD เส้นแบ่งครึ่งมุม ABC จากจุดยอดมุม ผ่านจุดที่ทำเครื่องหมายไว้แบ่งเป็นมุมละ 20 องศา
ดังนั้น มุม ABC จะถูกแบ่งเป็นสองส่วนเท่าๆ กัน
วิธีที่ 2 การแบ่งครึ่งมุมโดยใช้ไม้วงเวียน

การแบ่งครึ่งส่วนของเส้นตรง อาจทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมคือ ใช้ไม้บรรทัด และ วิธี ใช้วงเวียน
เรามาดูตัวอย่าง การแบ่งครึ่งของเส้นตรงโดยใช้ไม้บรรทัด และใช้วงเวียนกันเลย

ตัวอย่างที่ 1 การแบ่งครึ่งของเส้นตรงโดยใช้ไม้บรรทัด
ตัวอย่างที่ 2 การแบ่งครึ่งของเส้นตรงโดยใช้วงเวียน
 
วิธีการสร้างมุม :
 
 
อ้างอิง :
(15 กันยายน 2556 )